การจัดงานสัมมนาในยุคดิจิทัล อุปกรณ์ AV (Audio-Visual) ไม่ได้เป็นเพียงส่วนประกอบเสริม แต่เป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดคุณภาพ และความสำเร็จของการประชุม หากระบบภาพ และเสียงไม่สมบูรณ์ อาจทำให้ผู้เข้าร่วมขาดสมาธิ และพลาดข้อมูลสำคัญ ดังนั้น การเลือกห้องสัมมนาที่มาพร้อมอุปกรณ์ AV ที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

อุปกรณ์ AV สำคัญอย่างไรกับระบบภาพ และเสียงในห้องประชุม สัมมนา

ก่อนอื่น ต้องมาทำความรู้จักกับอุปกรณ์ AV กันก่อน ซึ่งก็คือเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานประชุม สัมมนา ได้เห็นภาพข้อมูลบนจอ LED และโปรเจกเตอร์ ได้อย่างชัดเจน รวมถึงได้ยินเสียงที่คมชัด ซึ่งการมีอุปกรณ์ระบบ AV ที่มีประสิทธิภาพ จะทำให้การประชุมเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของสถานที่จัดงาน ระบบ AV ประกอบไปด้วย

1. ระบบภาพ ควรเลือกอุปกรณ์ที่ให้ความสว่าง และความคมชัดสูง ไม่ว่าจะเป็นจอรูปแบบ LED หรือโปรเจคเตอร์ก็ตาม
   - จอ LED เหมาะสำหรับห้องจัดงานขนาดใหญ่ หรือห้องจัดงานที่มีแสงสว่างมาก เนื่องจากให้ความสว่าง และสีสันที่สดใสกว่าโปรเจกเตอร์ ทำให้ภาพชัดเจนจากทุกมุมมอง
   - จอโปรเจคเตอร์ เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางถึงเล็ก และควรตรวจสอบค่าความสว่าง ว่าเพียงพอต่อขนาดห้องหรือไม่ เพื่อให้ภาพไม่จมในสภาพแสงปกติ
   - จอ TV Monitor สำหรับวิทยากร ที่ไม่สามารถหันกลับไปมองที่จอหลักได้ เพราะยืนหันหลังให้กับจอหลัก จึงจำเป็นต้องมีการใช้ TV Monitor แบบวางที่พื้นหน้าเวที เพื่อใช้สำหรับดูว่าตอนนี้ภาพได้ถูกรันไปถึงไหนแล้ว ทำให้เนื้อหาการพูดสอดคล้องกับภาพ
2. ระบบเสียง ต้องกระจายเสียงได้อย่างทั่วถึงและไม่มีเสียงรบกวน ประกอบไปด้วย
   - ลำโพง ควรตรวจสอบการจัดวางลำโพง ว่ามีการกระจายเสียงครอบคลุมพื้นที่จัดงานทั้งหมดหรือไม่ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานประชุม สัมมนาที่นั่งด้านหลัง หรือด้านข้างได้ยินชัดเจนเท่ากันทั้งห้อง
   - ไมโครโฟน มีให้เลือกตามความเหมาะสมของวิทยากร ไม่ว่าจะเป็นไมค์ตั้งโต๊ะ ไมค์โพเดี่ยม ไมค์ Isomax หรือไมค์ถือทั่วไป
   - Monitor ในงานประชุม สัมมนาขนาดใหญ่ ที่อาจเกิดการดีเลย์ของเสียง จะต้องมีลำโพง Monitor อยู่บนเวที และอยู่ที่แผงควบคุมของ Sound Engineer เพื่อดันเสียงให้ตรงกัน

นอกจากคุณภาพของภาพ และเสียง ที่ต้องคัดสรรอุปกรณ์ AV ที่มีคุณภาพแล้ว ในบางงาน อุปกรณ์ AV อาจต้องครอบคลุมไปถึงการบันทึกภาพ และเสียง ทั้งแบบ LIVE OB, LIVE และ Record อีกด้วย รวมไปถึงการแปลภาษา ที่ต้องมีการติดตั้งระบบนี้พร้อมบูธล่าม และหูฟังสำหรับแขกต่างชาติในงาน เพื่อให้การแปลภาษาเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ และไม่รบกวนการดำเนินงานในส่วนอื่นๆ

• LIVE OB ย่อมาจาก "Live Outside Broadcast" หรือ "Live OB Switching" ซึ่งหมายถึง กระบวนการจัดการ และสลับสัญญาณภาพ และเสียงเพื่อการถ่ายทอดสดจากภายนอกสตูดิโอ (หรือจากสถานที่จัดงานจริง) ให้มีคุณภาพระดับมืออาชีพ หลายคนอาจเคยได้ร่วมงานอีเว้นท์ งานประชุม สัมมนา ขนาดใหญ่ ที่มีการจับภาพภายในงานขึ้นจอแบบ Real Time
• LIVE Switching คือการ LIVE งานประชุม สัมมนา ผ่านช่องทาง Social Media Platform ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น YouTube หรือ Facebook LIVE ซึ่งจะต้องมีการประสานระบบ AV ภายในงาน Wiring เข้ากับระบบบันทึกภาพ และเสียงของการส่งสัญญาน LIVE
• Record การบันทึกภาพ และเสียง ในบางงานไม่ได้บันทึกสดๆ จากในสถานที่โดยตรง แต่จะ Record แยกระหว่างภาพ และเสียง ซึ่งเป็นการบันทึกระบบ AV ของทั้งงาน จะต้องวางแผนการ Wiring ระบบเข้ากับการบันทึกไว้ตั้งแต่แรก

เทคนิคการเลือกสถานที่จัดงานประชุม สัมมนา ที่มีระบบ และอุปกรณ์ AV ครบครัน และตอบโจทย์การใช้งาน

การเลือกห้องสัมมนาที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ AV คุณภาพสูงมาตั้งแต่ต้น จะช่วยลดเวลา และค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง และลดความเสี่ยงด้านเทคนิคในวันงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานที่มีความซับซ้อนในพิธีการ มีการสลับระบบภาพ และเสียงไปมา รวมถึงการบันทึกในรูปแบบต่างๆ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น

1. ประเมินระบบภาพ - ชนิดของจอแสดงผล ถ้าเป็นจอ LED ในตัว (Built-in LED Screen) ถือเป็นตัวเลือกที่พรีเมียมที่สุด เพราะให้ความสว่าง และความคมชัดสูง แม้ในห้องที่มีแสงเยอะ แต่ถ้าเป็นโปรเจกเตอร์ ต้องถามหาค่าความสว่าง (Lumen) ต้องมีค่าสูง (เช่น 5,000-10,000 Lumens ขึ้นไป) ตามขนาดห้อง เพื่อให้ภาพไม่มืด หรือซีดจาง
   - ขนาด และตำแหน่งของจอ ตรวจสอบว่ามีจำนวนจอเพียงพอหรือไม่ (โดยเฉพาะห้องยาวหรือกว้าง) และตำแหน่งของจอไม่ถูกบังด้วยเสา หรือองค์ประกอบอื่นๆ
   - ความละเอียดของจอ (Resolution) ถามถึงความละเอียดของจอ (เช่น Full HD, 4K) เพื่อให้มั่นใจว่าตัวอักษร และกราฟิกจะคมชัดเพียงพอ
2. ประเมินระบบเสียง - การกระจายเสียงในห้องจัดงาน ให้ทดลองเดินรอบๆ ห้องประชุม (รวมถึงด้านหลังสุด และมุมห้อง) เพื่อทดสอบว่าระดับเสียงดังชัดเจนเท่ากันทุกจุดหรือไม่ เสียงต้องไม่ดังอู้อี้ หรือสะท้อนมากเกินไป
   - คุณภาพของไมโครโฟน ควรถามว่ามีไมค์ไร้สายคุณภาพดีหรือไม่ และมีจำนวนเพียงพอสำหรับวิทยากรหลายคนหรือไม่
   - ไมค์สำหรับ Q&A ต้องมีไมโครโฟนเสริมที่พร้อมใช้งานสำหรับช่วงถาม-ตอบ ควรเป็นไมค์ไร้สายที่ทีมงานสามารถส่งให้ผู้ถามได้อย่างรวดเร็ว
   - ระบบ Mixer ทีมงานของสถานที่ต้องมีเครื่อง Mixer ที่สามารถปรับ EQ และควบคุม Noise ได้เป็นอย่างดี
3. ประเมินระบบพื้นฐาน และการเชื่อมต่อ - ระบบเชื่อมต่อภาพ ต้องรองรับสายเชื่อมต่อมาตรฐานทั้งหมด (เช่น HDMI, USB-C) และควรมี ระบบส่งสัญญาณภาพแบบไร้สาย (Wireless Presentation) ที่เสถียรสำหรับวิทยากรเพื่อความสะดวก
   - อินเทอร์เน็ต Wi-Fi โดยเฉพาะถ้าต้อง Live Streaming หรือมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตพร้อมกันจำนวนมาก และมี ระบบสำรองสำหรับกรณีฉุกเฉิน
   - ระบบไฟฟ้าสำรอง สถานที่ควรมีระบบไฟฟ้าสำรอง (UPS/Generator) เพื่อป้องกันงานสะดุดหากเกิดไฟดับ
   - จุดติดตั้งสายไฟ ตรวจสอบว่ามีการจัดเก็บสายไฟ และอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างเรียบร้อย ไม่เกะกะ หรือเป็นอันตรายต่อผู้เข้าร่วมงาน
4. ประเมินทีมงานและบริการ - ช่างเทคนิคประจำงาน สถานที่ที่ดีต้องมีช่างเทคนิค AV ที่ประจำอยู่ในห้องประชุมตลอดเวลาที่มีการจัดงาน เพื่อแก้ไขปัญหาฉุกเฉินได้ทันที
   - การทดสอบล่วงหน้า สถานที่ควรอนุญาตให้มีการทดสอบระบบ AV และการนำเสนอของวิทยากรล่วงหน้า 1-2 วัน หรืออย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนงานเริ่ม

Sapphire Room และ The Portal Ballroom

2 รูปแบบสถานที่จัดงาน ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่จัดเต็มด้วยจอ LED คมชัด และระบบ AV ครบครัน

ห้องจัดงานทั้งสองนี้ถูกออกแบบ และติดตั้งอุปกรณ์ให้เป็นไปตามมาตรฐานการจัดประชุมที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพของงานสัมมนาได้อย่างมาก

1. จอ LED ความละเอียดสูงติดตั้งในตัว
   มั่นใจเรื่องความคมชัดสูงสุด มองเห็นจากทุกมุมของห้อง ผ่านการทดสอบมาแล้วจากเจ้าหน้าที่มืออาชีพ และผู้เข้าร่วมงานนับพัน ที่สำคัญคือ จอ LED ของอิมแพ็ค สามารถปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิด Slide ปกติทั่วไป การเปิด VDO หรือ LIVE ก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ระบบเสียงได้มาตรฐาน
   ทุกห้องจัดงานมีการออกแบบระบบเสียง Acoustic ที่ดี และมีการจัดวางตำแหน่งลำโพงอย่างเหมาะสม ผ่านการ Sound Check มาแล้วทุกห้อง มีไมโครโฟนหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน โดยไม่มีปัญหาติดขัดเรื่องเสียงหอน หรือเสียงแตก
3. ระบบสเถียร และครบวงจร
   เป็นระบบที่ควบคุมง่าย และมีห้องควบคุม AV โดยเฉพาะ พร้อมทีมช่างเทคนิคประจำที่คอยควบคุม และสลับสัญญาณภาพ และเสียงทั้งหมด ทำให้การเปลี่ยนภาพระหว่างวิทยากร หรือเนื้อหา ทำได้อย่างราบรื่น และเป็นมืออาชีพ อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย เช่น HDMI, USB-C และมีความพร้อมด้านระบบอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ที่เสถียรสำหรับการใช้งานจำนวนมาก

การเลือกห้อง Sapphire 204-206 และ The Portal Ballroom จึงเป็นการการันตีได้ว่า งานประชุม สัมมนาของคุณจะได้รับการซัพพอร์ตด้านเทคนิคภาพ และเสียงระดับพรีเมียม ช่วยให้การนำเสนอเนื้อหาเป็นไปอย่างราบรื่น และสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมได้อย่างแน่นอน หากคุณคือหนึ่งในบริษัท, องค์กร หรือหน่วยงาน ที่ต้องรับผิดชอบการจัดหาสถานที่จัดงานประชุม สัมมนา และมีความสนใจที่จะเข้าชมสถานที่จัดงานประชุม สัมมนา พร้อมทดสอบระบบ AV ของอิมแพ็ค เมืองทองธานี สามารถติดต่อสอบถามได้โดยตรงที่เบอร์ 02 833 5252 หรือเข้าชมสถานที่ผ่านทางเว็บไซต์